Alan Wake เกม PC ตั้งแต่ปี 2010 มีชื่อเสียงในยุคนั้น ด้านเนื้อเรื่องที่น่าติดตามและเกมเพลย์ที่น่าสนใจ ที่ได้มีโอกาสทำภาคต่ออีกครั้ง Alan Wake 2 วางจำหน่ายในปี 2023
Table of Contents
เนื้อเรื่อง
Alan Wake 1
อลัน เวค (Alan Wake) นักเขียนนิยายแนวสืบสวนที่ขายดี ต้องประสบปัญหาเขียนนิยายต่อไม่ได้เป็นเวลา 2 ปี เขาและอลิซ (Alice) ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนและคนดูแลเขา แบรี่ วีลเลอร์ (Barry Wheeler) ให้ไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่เมืองเล็กๆ ในภูเขา Bright Falls ที่วอชิงตัน
เมื่อเดินทางไปถึงที่นัดพบเพื่อขอกุญแจที่พักจากคาร์ล แต่ได้รับกุญแจจากหญิงชราปริศนาให้เขาไปกระท่อมบนเกาะกลางทะเลสาบแทน
เมื่อไปถึงที่พัก ทำให้เขาทราบว่าคนแนะนำ คือ นักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียง ดร. เอมิล ฮาร์ตแมน (Dr. Emil Hartman) เพื่อรักษาเรื่องที่เขียนงานไม่ได้ โดยเตรียมพิมพ์ดีดไว้ให้ ทำให้เขาแสดงความไม่พอใจต่อภรรยาเขา ระหว่างไปปรับอารมณ์ ที่กระท่อมเกิดมีบางสิ่งดึงอลิซลงสู่ทะเลสาบต่อหน้าอลัน เขากระโดดน้ำตามไป เขาเห็นภาพหลอนถึงหญิงชรา
เมื่อได้สติอีกครั้ง อลันพบว่าตนขับรถตกถนนและรอดมาได้ อีกทั้งแบรี่ยังบอกว่าติดต่อเขาไม่ได้ร่วม 2 สัปดาห์
เขาตั้งสติแล้วมุ่งหน้าผ่านป่าไปขอความช่วยเหลือที่ปั๊มบริเวณนั้น ระหว่างทางกลับพบกระดาษต้นฉบับ Departure ที่เขียนนามปากกาของตน ทั้งที่จำไม่ได้ว่าเคยเขียน
เนื้อหาใน Departure เป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเขาระหว่างทางราวกับทำนายอนาคตอันใกล้ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อเขา
* กระดาษต้นฉบับจะกระจายไปในหลายพื้นที่ หากพบจะมีการเล่าเรื่องในธีมอ่านนิยายเพื่อบอกเล่าถึงสิ่งที่กำลังจะเกิด ไปถึงจบเรื่อง
อลัน ต้องฝ่าพวกชาวเมืองที่ถูกพลังความมืดควบคุมร่าง จนกำจัดคาร์ลที่ถูกครอบงำได้ ที่ปั๊มน้ำมันเขาได้พบกับนายอำเภอ เบรคเกอร์ ซึ่งช่วยพาเขาย้อนไปที่ กระท่อมที่เขาอ้างว่าไปพักนั้น เคยจมไปก้นทะเลสาบจากเหตุภูเขาไฟระเบิดตั้งแต่ 30 ปีก่อน สร้างความมึนงงให้กับอลันมากขึ้น
อลัน เวค ที่พฤติกรรมน่าสงสัย ถูกพาตัวไปโรงพัก จน แบรรี่ เดินทางมาถึงและจะช่วยพาเขาออกไป
ระหว่างนั้นอลันได้รับโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นผู้ลักพาตัวอลิซ โดยเรียกร้องขอต้นฉบับ Departure เพื่อแลกกับเธอ
เอมิล ฮาร์ตแมน ปรากฏตัวที่สถานีเพื่อเชิญอลันให้พักที่โรงพยาบาลจิตเวชของเขา สร้างความไม่พอใจให้อลันจนชกเขา
อลันออกไปพบกับคนลักพาตัวที่อุทยานแห่งชาติใกล้เคียง ซึ่งเรียกร้องค่าไถ่จากหน้าหนังสือ ทั้งสองต่อสู้กันก่อนที่ผู้ลักพาตัวจะวิ่งหนีไปในตอนกลางคืน
อลันและแบร์รี่พยายามหาต้นฉบับเพิ่มอีก หลอกล่อเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ โรเบิร์ต ไนติงเกล ทำให้อลันหนีเจ้าหน้าที่ได้ จบไปแลกเปลี่ยนต้นฉบับเท่าที่พบให้คนลักพาตัว แต่กลับพบหญิงชรากำลังทรมานคนลักพาตัว ซึ่งเขาไม่เคยลักพาตัวอลิซจริง จนเกิดพายุหมุนปริศนาทำให้อลันจมลงในทะเลสาบ Cauldron Lake
อลันตื่นขึ้นมาในบ้านพักใกล้ทะเลสาบ ภายใต้การดูแลของฮาร์ตแมน ซึ่งอ้างว่าอลันกำลังประสบภาวะโรคจิต ซึ่งเกิดจากการที่อลิซจมน้ำ เขาอ้างว่าปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่อลันประสบมาล้วนเป็นเพียงจินตนาการของเขา
ระหว่างนั้น อลันได้เบาะแสจาก ทอร์ และ โอดิน ชายชราพี่น้องแอนเดอร์สัน (Anderson Brothers) ผู้เป็นอดีตนักดนตรี ให้ไปที่ฟาร์มของเขา
อลันพยายามหนีออกจากที่พักในขณะที่กองกำลังลึกลับเริ่มโจมตี ทราบว่าฮาร์ทแมนจ้างผู้ลักพาตัวปลอมมาเพื่อล่อให้อลันมาหาเขา ฮาร์ทแมนพยายามหยุดอลันไม่ให้หลบหนีแต่ไม่สำเร็จ ด้านแบร์รี่ช่วยอลันหนีออกจากที่พัก ก่อนที่เงาจะปกคลุมที่พักและทุกคนที่อยู่ข้างในสถานที่นั้น
อลันมุ่งหน้าไปที่ฟาร์มของพี่น้องแอนเดอร์สันเพื่อหาเบาะแสเพิ่ม
หลังผ่านหลายเหตุการณ์ร่วมกับพวกแบรรี่ ทำให้ อลันเริ่มเข้าใจความจริงทั้งหมด จนกระทั่งได้พบสวิสต์ไฟในวัยเด็ก “คลิกเกอร์” (Clicker) สิ่งที่สู้กับความมืดได้และทราบเรื่องราวทั้งหมด
สรุปเรื่องในอดีต 30 ปีก่อน
ในอดีต โทมัส เซน (Thomas Zane) นักเขียนนิยายชื่อดังผู้ชอบการดำน้ำ ได้สูญเสียภรรยาที่รัก บาร์บารา แจ็กเกอร์ (Barbara Jagger) ไปจากอุบัติเหตุจมน้ำ
เขาได้รับคำแนะนำจากผู้ช่วยเขาในตอนนั้น คือ ฮาร์ตแมน (ปัจจุบัน คือ ดร. ที่ชวนอลันมาพักผ่อนที่เมืองนี้) ที่ให้ไปเขียนนิยายเพื่อระบายความรู้สึก
เมื่อเขียนเรื่องราวให้ภรรยาเขากลับคืนมาด้วยความปรารถนาที่แรงกล้า ณ กระท่อมกลางน้ำ ทำให้เขาได้พบภรรยาอีกครั้ง แต่ก็พบว่าสิ่งที่กลับมาเป็นเพียง Dark Presence ที่ใช้ร่างเนื้อของภรรยาเท่านั้น
เซน พยายามฆ่าภรรยาตนด้วยอาวุธ แต่ไม่สามารถกำจัดมันลงได้ เขาต้องใช้สิ่งที่เหนือกว่านั้น ผนึก Dark Presence ไว้ใต้ทะเลสาป ก่อนกระท่อมจะจมเพราะภูเขาไฟระเบิด เซนสละกายเนื้อตน ดวงจิตอยู่ใน Dark Place
เขายังสร้างเรื่องราวของเด็กคนหนึ่งที่จะกลัวความมืดมิด แม่เขาจะสวิสต์ไฟเป็นเหมือนเครื่องราง (Clicker) ที่สะสมความเชื่อมั่นของเด็กน้อยตั้งแต่เด็ก จนมีพลังมากพอที่จะเอาชนะตัวตนของความมืดได้ … เป็นเรื่องราวของ อลัน เวค
ด้าน Dark Presence ต้องการหนีจากทะเลสาบ เมื่อพบ อลัน เวค ที่มีฝีมือด้านการเขียนนิยายและเดินทางมาเมืองนี้พอดี มาช่วยเขียนเรื่อง Departure ให้สละชีวิตของชาวเมืองและปลดปล่อยตน หลังภรรยาถูกดึงลงไปที่ทะเลสาบ ทำให้อลันเสียสติแล้วเขียนนิยายร่วม 2 สัปดาห์เพื่อช่วยภรรยา แต่แผนไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง เพราะ เซน ได้กำหนดให้อลันเวคไม่รู้จักตน ทำให้อลันที่คิดเนื้อหาไม่ออกได้ไอเดียจากหนังสือของเซนในกระท่อม เนื้อหาจึงถูกเปลี่ยนแปลงบางส่วน ความรุนแรงลดลงจากเดิม
* ปัจจุบัน เซน คือ วิญญาณผู้ชายที่ปรากฎในร่างในชุดดำน้ำมีแสงสีขาว ร่างยังติดใน Dark Place ส่วน Dark Presence ปรากฎตัวในรูปแบบหญิงชรา
อลันเวคเข้าใจแล้วว่า เขาจำเป็นต้องเขียนเรื่องที่มีพลังมากพอ ถึงจะช่วยภรรยาตนกลับมาได้
อลันกลับไปที่ทะเลสาบเพียงลำพัง ที่ใต้ทะเลสาป พบว่าตัวเองอยู่ในอีกมิติเหนือจริงที่เรียกว่า Dark Place ที่ซึ่งความคิดกลายเป็นความจริง
เมื่ออลันพบกับหญิงชรา เขาทำลายร่างเธอด้วยคลิกเกอร์จนร่างสลายไป ส่วน Dark Presence ไม่มีร่างให้ใช้อีก
เมื่อตระหนักว่าเขาต้องรักษาสมดุลในเรื่องนี้ เขาจึงเขียนเนื้อหาตอนจบของ Departure ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดใน Dark Place ให้ปล่อยอลิซเป็นอิสระ แต่ตนกลับติดอยู่ในความมืดมิด
เมื่อสิ้นสุดการเดินทาง อลันที่อยู่ในความมืดมิดตามลำพังโดยเชื่อว่าตนสามารถหลุดออกมาได้สักวิธี
ท้ายเกม เขาเขียนเนื้อหาในตอนจบ เมื่อจะเขียนเรื่องทะเลสาบก็พูดกับตนว่า “…. ไม่ใช่ทะเลสาบ แต่เป็นมหาสมุทร” (จบภาคแรก)
เนื้อหาเสริม The Signal และ The Writer
เนื้อหาโดยรวมใน Dark Place ต่อจากภาคแรกโดยตรง มีลูกเล่นใหม่เพิ่มเข้ามาเล็กน้อย
ส่วนใหญ่เป็นภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้น โดย อลัน เวค จะเริ่มเดินทางในสถานที่ต่างๆ ที่ผสมผสานกัน และได้ติดต่อกับ เซน ที่ช่วยนำทางเขา
อย่างไรก็ตาม ความมืดที่พลังที่มากกว่าที่เขาคิด ทำให้ไม่ว่ายังไง อลันไม่สามารถหาทางออกไปจากสถานที่มืดมิดแห่งนี้ได้
อลัน เริ่มตระหนักได้ว่าหมดหนทาง เขาจึงเริ่มเขียนเรื่องใหม่ เพื่อหาทางออก ในชื่อ “Return” (จบ DLC ของภาคแรก, ต่อภาค 2 ที่วางจำหน่าย 2023)
Gameplay / Cutscenes
ALAN WAKE REMASTERED All Cutscenes
หมายเหตุ
- ภาคแยกอื่นอย่าง Alan Wake’s American Nightmare (2012) เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับภาคหลักโดยตรง แต่มีส่วนขยายในบางเรื่อง
- จักรวาลของ อลัน เวค ยังเคยปรากฎในเกมอื่น อย่าง Control (Youtube)
Source: Wikipedia